วันที่ 3 มีนาคม 2564 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ภาคเหนือ ติดตามความก้าวหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำแม่อางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ้านแลง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง นายสุดชาย พรหมมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 นายธนพล สงวนตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 2 นายสมจิต อำนาจศาล ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา และ นายสุรศักดิ์ สุพรรณคง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วัง พร้อมด้วยนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณโครงการอ่างเก็บน้ำแม่อางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการนี้ องคมนตรีได้พบปะเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปความก้าวหน้าผลการดำเนินงานจากนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และนายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำแม่อางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินก่อสร้างผลงานร้อยละ 90 เป็นเขื่อนดินแบบแบ่งโซน ( Zone Type ) ความกว้าง 8.00 เมตร ความสูง 26.00 เมตร ความยาว 250.85 เมตร ความจุที่ระดับเก็บกัก 3.12 ล้านลูกบาศก์เมตร หากก่อสร้างแล้วเสร็จสามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 4,000 ไร่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค ของราษฎรตำบลบ้านแลงทั้งฤดูฝนและฤดูแล้ง ช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ตำบลบ้านแลงและเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่อีกด้วย
จากนั้น คณะองคมนตรี เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ตำบลบ้านแลงและตำบลบ้านเสด็จ พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าโครงการฝายแม่อางบ้านดงพร้อมระบบส่งน้ำ ตำบลบ้านแลง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และนายวิรัตน์ เจนจบ ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างสำนักงานชลประทานที่ 2 บรรยายสรุปความก้าวหน้าโครงการฝายแม่อางบ้านดงพร้อมระบบส่งน้ำ ลักษณะเป็นฝายคอนกรีตล้วนปนหินใหญ่ มีความยาวสันฝาย 22 เมตร ความสูงสันฝาย 3 เมตร ความก้าวหน้าผลการดำเนินงานก่อสร้างปัจจุบัน มีผลงานร้อยละ 65.4 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2564 และหากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝนได้ 1,100 ไร่ ฤดูแล้ง 400 ไร่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคของราษฎรในพื้นที่ ทำให้ราษฎรสามารถทำการเกษตรได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ช่วยให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
